วิธีลบบัญชี Twitter เป็นการถาวร
                    เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ Twitter (ปัจจุบันชื่อ X) นั้นเป็นสถานที่ประจำสำหรับเข้าไปดูข่าว มีมตลก ๆ และเชื่อมต่อกับผู้คนจากทั่วโลก
แต่ไม่ว่าคุณจะเป็นห่วงเรื่องวิธีจัดการข้อมูลของคุณ ต้องการจะทำความสะอาดให้กับภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพ หรือเพียงแค่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการเลื่อนหน้าจออย่างไม่รู้จบ คุณก็อาจจะอยากบอกลากับมันแล้ว
การลบบัญชีอย่างถาวรนั้นเป็นก้าวที่ใหญ่ แต่มันก็เป็นวิธีที่ทรงพลังในการควบคุมรอยเท้าดิจิทัลของคุณเองด้วยเช่นกัน คู่มือจะสอนวิธีลบโปรไฟล์และข้อมูลของคุณให้คุณทำตามได้อย่างมั่นใจ
ทำไมคุณจึงอาจอยากที่จะลบบัญชี Twitter ของคุณ?
มีหลายเหตุผลสำหรับการจะลบบัญชี Twitter อย่างถาวร มันเป็นการตัดสินใจส่วนตัว แต่สองเหตุผลหลักที่จะพบเห็นได้บ่อยก็คือ: การปกป้องข้อมูลของคุณ และความรู้สึกที่ว่าแพลตฟอร์มนั้นเปลี่ยนไป
1. ความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและการติดตามข้อมูล

Twitter เก็บข้อมูลเกี่ยวกับคุณเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่คุณแบ่งปันโดยตรงหรือข้อมูลที่เก็บจากการใช้งานแพลตฟอร์มของคุณก็ตาม
เมื่อคุณสมัครใช้งาน คุณต้องกรอกข้อมูลต่าง ๆ เช่น ชื่อที่ใช้แสดง ชื่อผู้ใช้ อีเมล หรือเบอร์โทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด และบางครั้งก็ต้องกรอกรายละเอียดการชำระเงินด้วยถ้าคุณใช้บริการแบบจ่ายเงิน ถ้าคุณตั้งค่าบัญชีมืออาชีพ คุณอาจจะต้องแบ่งปันข้อมูลอย่างหมวดหมู่ธุรกิจ ข้อมูลติดต่อ และแม้แต่ที่อยู่ของคุณด้วย
แต่มันยังไม่จบเพียงเท่านั้น X ยังติดตามวิธีการใช้แพลตฟอร์มของคุณด้วย: โพสต์ ไลก์ DM ประวัติการดู คนที่คุณโต้ตอบด้วย และตำแหน่งโดยประมาณของคุณ มันจะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์และการเชื่อมต่อของคุณ (อย่าง ที่อยู่ IP และชนิดเบราว์เซอร์) และก็สามารถเชื่อมโยงบัญชีของคุณเข้ากับอุปกรณ์หรือบริการอื่น ๆ ที่คุณใช้ได้
สรุปสั้น ๆ X จะสร้างโปรไฟล์อย่างละเอียดเกี่ยวกับคุณโดยอ้างอิงจากทุกอย่าง ตั้งแต่สิ่งที่คุณโพสต์ และคนที่คุณติดตาม ไปจนถึงสถานที่ที่คุณล็อกอินและสิ่งที่คุณคลิก
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อท้ายปี 2024 ทาง X ก็ได้อัปเดตเงื่อนไขการให้บริการของพวกเขาเพื่อมอบสิทธิ์ "ทั่วโลก, ไม่เฉพาะเจาะจง, ปลอดค่าลิขสิทธิ์" ในการใช้ คัดเลือก ดัดแปลง และแจกจ่ายเนื้อหาของผู้ใช้งานบนสื่อหรือเทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงรายการที่ยังไม่มีตัวตนในปัจจุบัน สำหรับแพลตฟอร์มตัวเองด้วย
ในขณะที่เงื่อนไขไม่ได้ระบุถึงปัญญาประดิษฐ์หรือแมชชีนเลิร์นนิงโดยเฉพาะ แต่หลาย ๆ คนต่างก็เห็นว่าการเขียนกว้าง ๆ แบบนี้จะเป็นการเปิดช่องให้ X สามารถใช้ทวีต ภาพถ่าย และเนื้อหาอื่น ๆ เพื่อฝึกฝนโมเดล AI ได้ การตีความแบบนี้ทำให้เกิดกระแสตีกลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเหล่าครีเอเตอร์ผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับงานของพวกเขาซึ่งอาจจะถูกนำไปใช้ใหม่โดยไม่ได้รับการยินยอมหรือค่าตอบแทน
Twitter ยังประสบปัญหาการรั่วไหลของข้อมูลครั้งใหญ่อีกด้วย เมื่อต้นปี 2023 ฐานข้อมูลที่มีโปรไฟล์ Twitter กว่า 200 ล้านโปรไฟล์ได้ถูกนำไปแชร์บนเว็บบอร์ดนักแฮ็กยอดนิยม ข้อมูลนี้ถูกเก็บไปเมื่อปี 2021 โดยการอาศัยช่องโหว่ของ Twitter API ที่ทำให้สามารถจับคู่ที่อยู่อีเมลกับโปรไฟล์ Twitter ได้ ชุดข้อมูลที่รั่วไหลนั้นรวมถึงที่อยู่อีเมล โปรไฟล์โซเชียลมีเดีย ชื่อจริง และชื่อผู้ใช้งาน
ในขณะที่ไม่มีรหัสผ่านรั่วไหล แต่ข้อมูลชนิดนี้ก็ยังมีค่าสำหรับอาชญากรอยู่ดี พวกเขาสามารถใช้มันเพื่อ โจมตีแบบฟิชชิง, โจรกรรมเอกลักษณ์บุคคล และ doxxing เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับความสามารถในการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้งานจากการถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด
การลบบัญชีของคุณนั้นเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการยึดเอาความสามารถในการควบคุมข้อมูลของคุณกลับมาบางส่วน และเป็นการลดรอยเท้าดิจิทัลลงด้วย ทวีต, ไลก์, DM และประวัติการค้นหาของคุณนั้นอาจมีข้อมูลส่วนบุคคลปนอยู่มากมาย ด้วยการลบบัญชีของคุณ คุณจะหยุดไม่ให้ X เก็บข้อมูลใหม่เกี่ยวกับคุณ และล้างประวัติสาธารณะบนแพลตฟอร์มออกทั้งหมด
2. การเปลี่ยนแปลงของแพลตฟอร์มและความไม่พอใจของผู้ใช้งาน
ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา Twitter ได้ทำการเปลี่ยนแปลงมากมายกับคุณสมบัติ นโยบาย และเอกลักษณ์ในภาพรวม
นโยบายการดูแลเนื้อหาบนแพลตฟอร์มมีการผ่อนปรนมากขึ้น ทำให้บางบัญชีที่เคยถูกแบนไปแล้ว สามารถกลับมาใช้งานใหม่ได้ และก็มีข้อมูลที่ผิด ๆ รวมถึงทฤษฎีสมคบคิดเพิ่มมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้สร้างสภาพแวดล้อมที่ toxic และทำให้ผู้ใช้งานหลายคนรู้สึกเหมือนไม่เป็นที่ต้อนรับ
การเปลี่ยนแปลงที่ถูกถกเถียงกันมากที่สุดนั้นเกี่ยวกับคุณสมบัติการบล็อก ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ก่อนหน้านี้ การบล็อกใครสักคนบน Twitter นั้นจะหมายความว่าพวกเขาจะไม่สามารถมองเห็นโพสต์หรือโปรไฟล์ของคุณได้ และก็ไม่สามารถโต้ตอบกับคุณได้ด้วย หลังจากที่เกิดการเปลี่ยนแปลง ผู้ใช้งานที่ถูกบล็อกยังสามารถมองเห็นโพสต์สาธารณะของคุณได้ แต่พวกเขาจะไม่สามารถติดตาม แสดงความคิดเห็น หรือส่งข้อความหาคุณโดยตรงได้ ผู้วิจารณ์ส่วนใหญ่บอกว่าสิ่งนี้ทำให้คุณสมบัติความปลอดภัยหลักอ่อนแอลง และทำให้การหลีกเลี่ยงการถูกคุกคามเป็นเรื่องยากขึ้น เว้นแต่จะทำการล็อกบัญชีทั้งบัญชีของคุณ
การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ทำให้ใครหลายคนต่างก็เริ่มมองหาแพลตฟอร์มอื่น หลายคนต่างก็รู้สึกว่าเว็บไซต์ที่พวกเขาเคยให้คุณค่าเพราะชุมชนและข้อมูลที่มีนั้นกลายเป็นสิ่งที่พวกเขาคาดเดาไม่ได้ สำหรับพวกเขา การลบบัญชีนั้นก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจ และเป็นการย้ายไปอยู่บนพื้นที่ออนไลน์ที่ดีกว่า
สิ่งที่ควรรู้ก่อนจะลบบัญชี Twitter ของคุณ
ก่อนที่คุณจะกดปุ่มลบ มีบางเรื่องที่คุณควรจะเข้าใจไว้ก่อน การลบบัญชีนั้นจะไม่เกิดขึ้นในทันที และมันก็จะเริ่มจากการปิดการใช้งาน ไม่ใช่การลบในทันที
การปิดใช้งาน vs. การลบถาวร
X ไม่เปิดให้คุณสามารถลบบัญชีได้ในทันที ขั้นแรก คุณต้องปิดการใช้งานมันก่อน ซึ่งจะเป็นการซ่อนโปรไฟล์และทวีตของคุณเป็นเวลา 30 วัน ระหว่างช่วงเวลานี้ ชื่อผู้ใช้และโปรไฟล์ของคุณจะไม่ปรากฏบน X
ถ้าคุณไม่ได้ใช้งานใด ๆ ในช่วง 30 วันนั้น บัญชีของคุณก็จะถูกลบเป็นการถาวร เมื่อถึงตอนนั้น ทวีต โปรไฟล์ และข้อความของคุณก็จะถูกนำออกจากมุมมองสาธารณะ และชื่อผู้ใช้งานของคุณก็จะถูกปล่อยให้ผู้อื่นสามารถนำไปใช้ต่อได้ เช่นเดียวกันกับแพลตฟอร์มใหญ่รายอื่น ๆ ข้อมูลบางส่วนของคุณจะยังคงหลงเหลืออยู่ในระบบสำรองข้อมูลเป็นระยะเวลาชั่วคราว แต่มันจะไม่สามารถถูกเข้าถึงจากสาธารณะได้แล้ว
ระยะเวลา 30 วันนั้นเป็นเหมือนระยะเวลาพัก ถ้าคุณล็อกอินกลับเข้าไปใช้งานในระหว่างนั้น บัญชีของคุณก็จะถูกกู้คืนมาอย่างเต็มรูปแบบ และกระบวนการลบก็จะถูกยกเลิก
คุณสามารถเปิดบัญชี Twitter ที่ถูกลบไปแล้วกลับมาใหม่ได้หรือไม่?
คุณจะสามารถกลับมาเปิดใช้งานบัญชีได้เฉพาะในช่วงเวลา 30 วันที่คุณได้ปิดใช้งานไป เพียงแค่ล็อกอินโดยใช้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน และคุณก็จะเห็นตัวเลือกในการกู้คืนบัญชีของคุณ หลังจากที่คุณได้ยืนยันแล้ว ทวีต ข้อความ และผู้ติดตามของคุณก็จะกลับมาปรากฏอีกครั้ง แต่อาจจะใช้เวลาหลายนาที

หลังจากผ่านไป 30 วันแล้ว บัญชีของคุณก็จะหายไปเป็นการถาวร และจะไม่มีทางกู้มันกลับคืนมาได้ ดังนั้นถ้ามีโอกาสเล็กน้อยที่คุณต้องการจะกลับมาใช้งานใหม่ ก็อย่าลืมล็อกอินก่อนถึงเวลาที่กำหนด
Twitter เก็บข้อมูลอะไรเอาไว้บ้าง
แม้ว่าคุณจะลบบัญชีเป็นการถาวรแล้ว แต่ Twitter ก็อาจจะเก็บข้อมูลบางส่วนเอาไว้โดยมีเหตุผลด้านความปลอดภัย กฎหมาย และข้อบังคับ:
- ประวัติการชำระเงินนั้นจะถูกเก็บเอาไว้ถ้าคุณใช้บริการแบบจ่ายเงิน และข้อมูลธุรกรรมจะถูกเก็บเอาไว้นานกว่าเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย
 - การสื่อสารกับฝ่ายสนับสนุนของ X (อีเมลหรือข้อความ) อาจจะถูกเก็บเอาไว้นานสุดเป็นเวลา 18 เดือน เว้นแต่ว่ากฎหมายจะบังคับให้เก็บไว้นานกว่านั้น
 - อุปกรณ์ ตำแหน่ง และข้อมูลบันทึกที่เก็บผ่านทางคุกกี้ ซึ่งสามารถถูกเก็บไว้นานสุดเป็นเวลา 13 เดือน
 - ข้อมูลการโฆษณาและการโต้ตอบ (เช่น วิธีการที่คุณโต้ตอบกับโฆษณาและเนื้อหาของบุคคลที่สาม) มักจะถูกเก็บเอาไว้นานสุดเป็นเวลา 12 เดือน
 - ข้อมูลบ่งชี้สำหรับบัญชีที่ถูกระงับ (เช่น ที่อยู่อีเมลและเบอร์โทรศัพท์) อาจจะถูกเก็บไว้นานไม่มีกำหนด เพื่อป้องกันการทำผิดนโยบายซ้ำซ้อน
 
X ยังอาจจะต้องเก็บข้อมูลเอาไว้นานกว่าที่ระบุด้วย ถ้ากฎหมายบังคับ หรือต้องใช้ข้อมูลในการจัดการกับข้อพิพาท หรือรักษาความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม
โปรดทราบว่าทวีตหรือข้อมูลโปรไฟล์บางส่วนของคุณอาจจะยังถูกแสดงอยู่บน:
- เสิร์ชเอนจินอย่าง Google หรือ Bing ถ้าพวกเขาทำดัชนีกับโพสต์ของคุณก่อนที่คุณจะลบ ลิงก์เหล่านี้จะพาไปพบกับหน้าแสดงข้อความผิดพลาด แต่มันก็จะยังคงอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่ง คุณสามารถเพิ่มความเร็วในการลบมันได้ด้วยเครื่องมืออย่าง Refresh Outdated Content (รีเฟรชเนื้อหาที่ล้าสมัย) ของ Google
 - บริการของบุคคลที่สามที่คุณเชื่อมต่อเข้ากับ X ซึ่งอาจจะเก็บข้อมูลที่ได้ถูกแชร์ให้พวกเขา คุณต้องจัดการและถอนการอนุญาตโดยตรงในการตั้งค่าของบริการเหล่านั้น
 - คลังเก็บข้อมูลเว็บไซต์ อย่างเช่น Wayback Machine ซึ่งจะสร้างภาพถ่ายของเว็บไซต์โดยอิสระ ถ้าโปรไฟล์หรือทวีตของคุณถูกเก็บไว้ในคลังเก็บข้อมูล มันก็อาจจะถูกเปิดดูได้ เพราะว่า X ไม่สามารถควบคุมคลังเก็บข้อมูลภายนอกได้
 
วิธีสำรองข้อมูล Twitter
ก่อนที่คุณจะบอกลากับบัญชีของคุณ คุณอาจจะต้องการบันทึกสำเนาประวัติของคุณเอาไว้ Twitter อนุญาตให้คุณดาวน์โหลดข้อมูล Twitter ของคุณซึ่งจะเป็นภาพถ่ายข้อมูลโปรไฟล์และกิจกรรมของคุณ ข้อมูลนี้จะประกอบไปด้วยเกือบทุกอย่างที่คุณเคยทำบนแพลตฟอร์ม ซึ่งรวมถึง:
- ข้อมูลโปรไฟล์ของคุณ
 - โพสต์ทั้งหมดของคุณ (ทวีตและรีทวีต)
 - ข้อความโดยตรง
 - Moments และรายการ
 - การอัปโหลดสื่อ (รูปภาพ วิดีโอ และ GIF ที่คุณแนบไปกับทวีต)
 - รายการผู้ติดตามคุณและบัญชีที่คุณติดตาม (รายการติดตาม)
 - สมุดที่อยู่ (ถ้าคุณเคยแบ่งปันไว้)
 - ข้อมูลความสนใจและข้อมูลประชากรที่สรุปเกี่ยวกับคุณ
 - โฆษณาที่คุณเคยเห็นหรือโต้ตอบด้วย
 
ในการจะได้รับข้อมูลของคุณ คุณต้องขอข้อมูลจากการตั้งค่าบัญชีของคุณ ตามวิธีดังต่อไปนี้:
- บนเบราว์เซอร์เดสก์ท็อป คลิกปุ่ม More (เพิ่มเติม) (จุดสามจุดตรงแถบด้านซ้าย) และไปที่ Settings and privacy (การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว) บนแอปมือถือ แตะที่ profile picture (รูปโปรไฟล์) ของคุณตรงมุมซ้ายบน จากนั้นแตะที่ Settings & Support (การตั้งค่าและสนับสนุน) > Settings and privacy (การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว) (Android) หรือแค่ Settings and privacy (การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว) (iPhone)

 - เลือก Your account (บัญชีของคุณ) > Download an archive of your data (ดาวน์โหลดคลังข้อมูลของคุณ)

 - กรอกรหัสผ่านและคลิก Next (ถัดไป)

 - คลิก Send code (ส่งรหัส) เพื่อยืนยันตัวตนของคุณทางอีเมลหรือโทรศัพท์

 - กรอกรหัสยืนยันตัวตนที่คุณจะได้รับ และคลิกปุ่ม Request archive (ขอคลังข้อมูล)

 - คุณจะได้รับอีเมลหรือการแจ้งเตือนหลังจากที่คลังข้อมูลพร้อมแล้ว
 - คลิกปุ่ม Download data (ดาวน์โหลดข้อมูล) ในขณะที่คุณล็อกอินอยู่ในบัญชีและบันทึก ไฟล์ .zip
 
คลังข้อมูลจะมีทั้งไฟล์ HTML และ JSON ดังนั้นคุณจะสามารถดูประวัติของคุณได้อย่างง่ายดาย และก็สามารถใช้โปรแกรมประมวลผลมันได้ด้วย
วิธีลบบัญชี Twitter บนเดสก์ท็อป
ถ้าคุณใช้คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปหรือเดสก์ท็อป กระบวนการปิดใช้งานบัญชีนั้นก็ตรงไปตรงมา คุณต้องคลิกเพียงแค่ไม่กี่ครั้งจากในหน้าการตั้งค่าของคุณ นี่คือคู่มือสอนแบบทีละขั้นตอนสำหรับการลบบัญชี Twitter ด้วยการใช้เบราว์เซอร์:
- คลิกปุ่ม More (เพิ่มเติม) (จุดสามจุด) ในแถบด้านซ้ายและเลือก Settings and privacy (การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว)

 - ไปที่ Your account (บัญชีของคุณ) และคลิก Deactivate your account (ปิดการใช้งานบัญชีของคุณ)

 - อ่านข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณปิดการใช้งาน จากนั้นคลิกปุ่ม Deactivate (ปิดการใช้งาน) ตรงด้านล่างของหน้า

 - กรอกรหัสผ่านเมื่อขึ้นให้ดำเนินการ และคลิก Deactivate (ปิดการใช้งาน) อีกครั้งเพื่อยืนยัน

 
เท่านั้นเอง บัญชีของคุณถูกปิดการใช้งานแล้ว ตราบใดก็ตามที่คุณไม่ล็อกอินกลับเข้าไปภายในเวลา 30 วัน มันก็จะถูกลบเป็นการถาวร
ต้องทำอย่างไรถ้าบัญชี Twitter ไม่ยอมปิดการใช้งานบนเดสก์ท็อป
บางครั้งสิ่งต่าง ๆ ก็ไม่เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ ถ้าคุณคลิกที่ปุ่มปิดการใช้งานแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือคุณได้รับข้อความผิดพลาด นี่คือบางสิ่งบางอย่างที่คุณสามารถลองทำได้:
- ตรวจสอบข้อมูลการล็อกอินของคุณ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้ข้อมูลการล็อกอินที่ถูกต้องแล้ว ถ้าคุณลืมรหัสผ่าน ให้ใช้ลิงก์ลืมรหัสผ่านเพื่อรีเซ็ตมันก่อนที่คุณจะพยายามปิดการใช้งาน
 - ล้างแคชและคุกกี้ของเบราว์เซอร์: บางครั้งข้อมูลเก่าที่คุณเก็บเอาไว้ในเบราว์เซอร์อาจจะแทรกแซงกับการทำงานของเว็บไซต์ได้ หลังจากที่ล้างมันแล้ว ปิดเบราว์เซอร์และเปิดใหม่ จากนั้นให้ลองทำตามกระบวนการปิดการใช้งานอีกครั้ง
 - ลองใช้เบราว์เซอร์อื่น: บางครั้งปัญหาด้านความเข้ากันได้หรือส่วนขยายเบราว์เซอร์อาจจะเป็นสาเหตุก็ได้ ตัวอย่างเช่นการเปลี่ยนจาก Chrome ไปใช้ Firefox ก็อาจจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ คุณสามารถลองปิดส่วนขยายเบราว์เซอร์ทั้งหมดของคุณก่อนที่จะพยายามปิดการใช้งาน เนื่องจากบางครั้งตัวบล็อกโฆษณาหรือสคริปต์ความเป็นส่วนตัวอาจจะทำให้หน้าโหลดไม่ถูกต้องได้
 - การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่เสถียร: คำร้องขอปิดการใช้งานต้องมีการเชื่อมต่อที่เสถียรไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Twitter อินเทอร์เน็ตที่ไม่เสถียรอาจทำให้กระบวนการล้มเหลวได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้เครือข่าย Wi-Fi ที่เสถียรแล้ว คุณสามารถเปลี่ยนไปใช้เน็ตมือถือเพื่อลองดูได้เลยว่าการเชื่อมต่อเป็นต้นตอของปัญหาหรือไม่
 - ปัญหาเซิร์ฟเวอร์: มันอาจจะมีปัญหาชั่วคราวกับเซิร์ฟเวอร์ของ Twitter รอสักชั่วโมงหนึ่งแล้วลองใหม่อีกครั้ง ถ้ายังมีปัญหาอยู่ ทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่ของคุณก็คือการติดต่อศูนย์สนับสนุนของ Twitter แต่เตรียมตัวให้ดีเพราะพวกเขาอาจจะตอบช้ามาก ๆ
 - การล็อกหรือระงับบัญชี: คุณจะไม่สามารถปิดการใช้งานบัญชีที่ถูกระงับหรือถูกล็อกเพราะทำผิดนโยบายได้ คุณต้องเริ่มด้วยการแก้ปัญหาโดยทำตาม กระบวนการอุทธรณ์ของ Twitter หลังจากที่คุณกู้คืนบัญชีได้แล้ว คุณก็จะสามารถปิดการใช้งานมันได้
 - การจำกัดความถี่ในการปิดการใช้งาน: Twitter อาจจะจำกัดความถี่ในการปิดการใช้งานและการเปิดการใช้งานบัญชีของคุณ ถ้าคุณพึ่งจะกลับมาเปิดใช้งานโปรไฟล์ของคุณอีกครั้ง คุณก็อาจจะต้องรอสักระยะก่อนที่จะสามารถปิดการใช้งานมันได้อีกครั้ง นี่ก็เพื่อเป็นการป้องกันการใช้คุณสมบัตินี้ในทางที่ผิด ไม่มีเวลาบอกแน่ชัด ดังนั้นถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณ ก็ให้รอสักพักก่อนที่จะลองใหม่อีกครั้ง
 
วิธีลบบัญชี Twitter บน iOS (iPhone และ iPad) และ Android
ขั้นตอนในการลบบัญชี Twitter นั้นจะเหมือนกันสำหรับทั้ง iOS และ Android เลย์เอาต์บนแอปมือถือนั้นจะเหมือนกันทั้งสองแพลตฟอร์ม ดังนั้นคุณจะค้นพบตัวเลือกในเมนูเดียวกัน:
- เปิด Twitter app (แอป Twitter) บน iPhone หรือ iPad ของคุณ แตะที่ profile picture (รูปโปรไฟล์) ของคุณตรงมุมซ้ายบน และเลือก Settings and privacy (การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว)

 - เลือก Your account (บัญชีของคุณ) และแตะที่ Deactivate your account (ปิดการใช้งานบัญชีของคุณ)

 - อ่านข้อมูลที่ปรากฏและแตะที่ ปิดการใช้งาน กรอกรหัสผ่านเมื่อขึ้นให้ดำเนินการ และแตะที่ ปิดการใช้งาน อีกครั้งหนึ่งเพื่อยืนยัน

 
ต้องทำอย่างไรถ้าตัวเลือกการลบไม่ปรากฏในแอป (บน iOS)
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดก็คือแอปของคุณล้าสมัย Apple มีแนวทางกำหนดไว้ว่าทุกแอปที่มีการสร้างบัญชี ต้องมีการลบบัญชีอยู่ภายในแอปด้วย ถ้าแอป Twitter ของคุณเป็นเวอร์ชันเก่า มันก็อาจจะยังไม่มีคุณสมบัตินี้ อัปเดตแอป Twitter ของคุณไปยังเวอร์ชันล่าสุดผ่าน App Store
ถ้าคุณใช้บัญชีธุรกิจหรือมืออาชีพ บางคุณสมบัติอาจจะถูกจัดระเบียบเอาไว้ไม่เหมือนกัน
บังคับปิดแอป Twitter และเปิดมันขึ้นมาใหม่ บน iPhone รุ่นใหม่ ๆ ปัดขึ้นจากด้านล่างข้าง และปัดขึ้นตรงที่มีแอป Twitter อยู่เพื่อปิดมัน บน iPhone รุ่นเก่า ๆ ที่ยังมีปุ่มโฮมอยู่ ให้แตะที่ปุ่มโฮมสองครั้ง และปัดขึ้นตรงที่มีแอป Twitter อยู่
ลองออกจากระบบและล็อกอินกลับเข้าไปเพื่อรีเฟรชการตั้งค่าบัญชีของคุณ บางครั้งข้อมูลบัญชีต้องได้รับการรีเฟรชก่อนเพื่อที่จะแสดงตัวเลือกทั้งหมดที่มี ถ้าตัวเลือกยังไม่ปรากฏ คุณอาจจะต้องใช้ Twitter เวอร์ชันเดสก์ท็อปผ่านทางเบราว์เซอร์บน iPhone และทำตามขั้นตอนการลบบัญชีบนเดสก์ท็อปแทน
วิธีแก้ไขปัญหาที่พบเจอได้ทั่วไปเมื่อทำการลบ Twitter บน Android
ผู้ใช้งาน Android อาจจะประสบปัญหากับแอปเป็นครั้งคราวในขณะที่พยายามปิดการใช้งานบัญชี ถ้าปุ่มปิดการใช้งานดูเหมือนจะไม่ตอบสนอง หรือคุณได้รับข้อความผิดพลาดแบบทั่วไป ก็มีวิธีการแก้ปัญหาที่คุณสามารถทำได้
ขั้นแรก ให้ลองล้างแคชของแอป:
- ไปที่ Settings (การตั้งค่า) ของมือถือ > Apps (แอป) และเลื่อนลงไปจนกว่าจะเจอ X

 - แตะ Storage (พื้นที่จัดเก็บ) และเลือก Clear cache (ล้างแคช).

 
วิธีการนี้จะแก้ปัญหาของแอปส่วนใหญ่ได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อข้อมูลของคุณ ถ้ามันไม่ได้ผล ให้ลองเข้าไปดูใน Google Play Store ว่าแอป Twitter มีอัปเดตใหม่หรือไม่ การใช้งานเวอร์ชันเก่าอาจก่อให้เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอปได้รับการอัปเดตแล้ว จากนั้นลองทำตามขั้นตอนการปิดใช้งานอีกครั้ง
วิธีการสุดท้าย ถ้าแอปยังคงมีปัญหาอยู่ ให้ลองใช้วิธีเบราว์เซอร์ดู เปิด Chrome หรือเบราว์เซอร์อื่น ๆ บนอุปกรณ์ Android ของคุณ ไปที่ X.com และทำการล็อกอิน จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในคู่มือสำหรับเดสก์ท็อป เว็บไซต์ก็จะเป็นทางออกที่ดี ถ้าหากว่าใช้วิธีแอปเนทีฟแล้วไม่ประสบความสำเร็จ
คำถามที่พบบ่อย: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลบบัญชี Twitter
                                                            
                            ฉันสามารถลบบัญชี Twitter โดยที่ไม่ต้องล็อกอินได้หรือไม่?                            
                                
                            
                        
                    
                    ไม่ได้ คุณจะไม่สามารถลบบัญชีของคุณโดยที่ไม่ล็อกอิน คุณต้องสามารถเข้าถึงการตั้งค่าบัญชีของคุณเพื่อที่จะทำการปิดการใช้งาน ซึ่งคุณก็ต้องรู้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน
ถ้าคุณลืมรหัสผ่าน คุณควรจะใช้ลิงก์ "Forgot password? (ลืมรหัสผ่าน?)" บนหน้าล็อกอินเพื่อทำการรีเซ็ตมัน เพื่อที่จะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ คุณจะต้องสามารถเข้าถึงอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์ที่คุณใช้ในการสร้างบัญชี Twitter ของคุณด้วย
                                                            
                            ฉันสามารถลบบัญชี Twitter ที่ถูกระงับได้หรือไม่?                            
                                
                            
                        
                    
                    การลบบัญชี Twitter ที่ถูกระงับนั้นจะมีความซับซ้อนมากกว่าการลบบัญชีทั่วไป ถ้าบัญชีของคุณถูกระงับ คุณจะไม่สามารถปิดการใช้งานมันผ่านกระบวนการปกติได้ คุณจะต้องส่งคำร้องขออุทธรณ์ผ่านระบบสนับสนุนของ Twitter เพื่อให้ตรวจสอบการระงับก่อน
                                                            
                            การปิดการใช้งานบัญชี Twitter นั้นเหมือนกับการลบบัญชีหรือไม่?                            
                                
                            
                        
                    
                    ไม่เหมือน มันคือสองขั้นตอนของกระบวนการเดียวกัน การปิดการใช้งานนั้นจะเป็นขั้นตอนแรก และก็จะมีผลชั่วคราว สามารถย้อนกลับได้ภายใน 30 วัน ซึ่งในขั้นนี้ บัญชีของคุณจะถูกซ่อนเอาไว้ การลบนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วมีผลถาวร ไม่สามารถย้อนกลับได้ โดยขั้นตอนนี้จะเกิดขึ้นหลังจากปิดการใช้งานไปแล้วเป็นเวลา 30 วัน
                                                            
                            ปิดการใช้งานแล้ว Twitter ต้องใช้เวลาอีกกี่วันก่อนที่จะลบบัญชีของฉัน?                            
                                
                            
                        
                    
                    Twitter จะลบบัญชีของคุณเป็นการถาวรหลังจากที่ปิดการใช้งานไปแล้ว 30 วัน ช่วงเวลานี้จะเกิดขึ้นทันทีหลังจากที่คุณทำการปิดการใช้งานสำเร็จ ในระหว่างช่วงเวลานี้ บัญชีของคุณจะถูกซ่อนเอาไว้จากผู้ใช้งานคนอื่น ๆ แต่มันก็ยังมีตัวตนอยู่ในระบบของ Twitter อยู่ หลังจากที่ผ่านไป 30 วันแล้ว Twitter จะเริ่มกระบวนการลบบัญชีอย่างถาวร
                                                            
                            ฉันจะดาวน์โหลดข้อมูล Twitter ของฉันก่อนที่จะทำการลบบัญชีได้อย่างไร?                            
                                
                            
                        
                    
                    คุณสามารถดาวน์โหลดคลังข้อมูล Twitter ของคุณได้จากการตั้งค่าบัญชีของคุณ ไปที่การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว > บัญชีของคุณ > ดาวน์โหลดคลังข้อมูลของคุณ คุณจะต้องยืนยันรหัสผ่านของคุณและ Twitter จะเตรียมไฟล์ .zip ที่มีทวีต ข้อความโดยตรง สื่อที่อัปโหลด และอื่น ๆ ให้
                                                            
                            ฉันควรจะลบทวีตก่อนที่จะลบบัญชี Twitter หรือไม่?                            
                                
                            
                        
                    
                    ไม่จำเป็น ตอนที่บัญชีของคุณถูกลบเป็นการถาวร หลังจากที่ผ่านช่วงปิดการใช้งานไป 30 วันแล้ว ทวีตทั้งหมดของคุณก็จะถูกลบไปด้วย ประวัติการทวีตทั้งหมดของคุณจะถูกลบจากมุมมองสาธารณะบนแพลตฟอร์ม
ถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่ผู้ใช้งานบางครั้งก็เลือกที่จะลบทวีตของพวกเขาเองก่อนที่จะทำการปิดการใช้งาน เพื่อให้ได้ความสบายใจ รองรับกรณีที่บัญชีของคุณถูกกลับมาเปิดใช้งานโดยบังเอิญในช่วงเวลา 30 วัน แต่จริง ๆ แล้วนี่ไม่ใช่ขั้นตอนที่จำเป็น กระบวนการลบขั้นสุดท้ายจะจัดการเรื่องนี้ให้คุณอยู่แล้ว
                                                            
                            เกิดอะไรขึ้นหลังจากที่คุณปิดใช้งานบัญชี Twitter ของคุณแล้ว?                            
                                
                            
                        
                    
                    หลังจากที่คุณปิดใช้งานบัญชี Twitter ของคุณแล้ว มันจะเข้าสู่กระบวนการปิดการใช้เวลาเป็นเวลา 30 วัน ในระหว่างช่วงเวลานี้ โปรไฟล์และทวีตของคุณจะถูกซ่อน และคุณจะสามารถกลับมาเปิดใช้งานบัญชีได้ด้วยการล็อกอินเข้าใช้งาน ถ้าคุณไม่ล็อกอินภายใน 30 วันนั้น บัญชีของคุณก็จะถูกลบเป็นการถาวร
ชื่อผู้ใช้งานของคุณจะสามารถถูกนำไปใช้ใหม่ได้สำหรับบุคคลอื่น ๆ และข้อมูลส่วนใหญ่ของคุณก็จะถูกนำออกจากระบบของ Twitter ยกเว้นข้อมูลบางประเภท (เช่น เรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมายหรือข้อมูลความปลอดภัย) จะถูกเก็บไว้ระยะหนึ่ง
ก้าวแรกสู่การปกป้องตัวตนออนไลน์ของคุณ ลองใช้ ExpressVPN ไม่มีความเสี่ยง
รับ ExpressVPN